บทที่5 การออกแบบและพัฒนาโปรแกรมขนาดเล็กด้วยโปรแกรมภาษาปาสคาล

บทที่ 5 การออกแบบและพัฒนาโปรแกรมขนาดเล็กด้วยโปรแกรมภาษาปาสคาล

     ภาษาปาสคาลสร้างขึ้นเพื่อใช้สอนการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้เป็นระบบและมีระเบียบเป็นโครงสร้างเนื่องจากเป็นภาษาที่มีรูปแบบง่าย 
ต่อความเข้าใจ เขียนเป็นโปรแกรมได้เร็วแก้ไขปรับปรุงง่าย   ผู้สร้างภาษานี้คือ ดร.เวียร์ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2514 ซึ่งหลังจากออกแบบแล้ว
ได้มีผู้นำไปเขียนเป็น โปรแกรมตัวแปร (COMPILER) โดยที่ตัวแปรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ TURBO PASCAL ของบริษัทบอร์แลนด์
และปัจจุบันได้ถูกพัฒนาไปเรื่อยๆ 

     ในอดีตภาษาคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่าฟอร์แทรนและโคบอลเป็นภาษาที่นิยมให้มากที่สุด ภาษาซอร์แทรนพัฒนาขึ้นใช้ในปี พ.ศ. 2499 เป็นภาษาที่ใช้เพื่อประยุกต์

งานด้านตัวเลขได้ดีเยี่ยม ส่วนภาษาโคบอลพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2502 มุ่งใช้งานด้านประมวลผลธุรกิจ สำหรับภาษาปาสคาลได้รับการพัฒนาขึ้นในปี พ.ศ. 2513

โดย นิเคลาส์ เวียร์ธ(Niklaus Wirth) แห่งเทคนิเคิล ยูนิเวอร์ซิตี้ ในเมืองซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมแพร่หลายในปัจจุบันและจะนิยมกันมาก

ในอนาคต จุดประสงค์ของการใช้ภาษาปาสคาลเบื้องแรกก็คือ ฝึกนิสัยการเขียนโปรแกรมให้มีระเบียบระบบหรือฝึกการเขียนโปรแกรมโครงสร้าง ภาษาปาสคาลเป็น

ภาษาที่ออกแบบขึ้นให้มีความง่ายต่อการทำงาน การเข้าใจและการใช้ ปาสคาลเป็นชื่อของนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศสชื่อว่า Blaise Pascal ซึ่งได้คิดเครื่องคำนวณ

ระบบกลไกขึ้นเป็นคนแรกจึงได้รับเกียรติให้ตั้งเป็นชื่อภาษาคอมพิวเตอร์ซึ่งเวียร์ธเป็นผู้สร้างภาษานี้ขึ้น ใช้กันกว้างขวางในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเพื่อสอนการเขียน

โปรแกรมโครงสร้าง และใช้เป็นภาษาเอนกประสงค์(general purpose) ซึ่งประยุกต์ใช้ได้ทั้งคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่และไมโครคอมพิวเตอร์โปรแกรมง่าย ๆ

โปรแกรมภาษาปาสคาลที่สมบูรณ์และง่ายที่สุดจะต้องเป็นดังนี้
PROGRAM MyfirstProgram(OUTPUT):
BEGIN
WRITELN(‘This is my program);
END.

รงสร้างของโปรแกรมปาสคาล

       โครงสร้างของโปรแกรมประกอบด้วยการตั้งหัวเรื่อง โดยการตั้งชื่อของโปรแกรมขึ้นเองในบรรทัดแรกด้วยคำว่า 
PROGRAMMyfirstProgram คำว่าBEGIN เป็นส่วนที่แสดงจุดเริ่มต้นของโปรแกรม ในทางตรงกันข้าม
 END. แสดงว่าเป็นส่วนของโปรแกรมที่สิ้นสุดการทำงาน และเมื่อจั่วหัวโปรแกรมจะตามด้วยชื่อโปรแกรมที่เราตั้งเอง แล้วตาม
ด้วยเครื่องหมาย ; สรุปได้ว่าโครงสร้างของโปรแกรมเป็นดังนี้ ในขั้นแรก 
ไปดูโครงสร้างของการเขียน pascal




โครงสร้าง pascal
program ...;
var ...

begin

end.






program
เป็นส่วน ตั้งชื่อของโปรแกรมเพื่อให้รู้ว่าคือโปรแกรมอะไร
ท้ายของชื่อ ให้เขียน ; (semi-colon) เพื่อเป็นการจบคำสั่ง
ส่วนนี้เราจะเขียนหรือไม่ก็ได้ เพราะส่วนนี้เป็นเพียงชื่อเท่านั้น
program  myprogram;
var ...

begin

end.





ในเรื่องของตัวแปร ( variable )



การประกาศตัวแปรให้ เริ่มด้วย var

ตามด้วย

ชื่อของตัวแปร : ชนิดของตัวแปร ;
( ส่วนประกอบของตัวแปร )




          ที่ต้องมี การกำหนด ชนิดตัวแปรไว้หลายประเภทนี้ ก็เพื่อ
สะดวกในการใช้

งานเช่น integer ก็ไว้สำหรับตัวแปรตัวเลขที่ใช้คำนวณ ส่วน string ก็ใช้จัดการ

ข้อมูลตัวอักษรเพื่อความเหมาะสม  คือ เมื่อเราประกาศตัวแปรแล้ว โปรแกรมจะ

ทำการจองหน่วยความจำ ให้กับตัวแปรหากเราใช้ ชนิดตัวแปรให้กว้างที่สุดแบบ

เดียวกันหมด.. ก็อาจจะกินหน่วยความจำมากเกินไปก็เลยกำหนดไว้หลายประเภท

เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดของข้อมูล 


ตัวอย่าง
myname : string ;
yourname : string ;
age : byte ;
money : word ;

* ในการตั้งชื่อตัวแปร *
ควรตั้งชื่อ ที่สื่อความหมายได้ดี
เพื่อสะดวกในการแก้ไขโปรแกรม







begin

end. ส่วนนี้มีไว้สำหรับ สั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน
program  myprogram;
var
a : integer ;
b : string ;
c : char ;
begin

write(' this is my first program') ;

end.


คำสั่งพื้นฐานที่จะต้องทำความรู้จักก็คือ

write( ) ;
ใช้สำหรับสั่งให้แสดงตัวอักษรบนจอ โดยใช้ร่วมกับเครื่องหมาย ' ... '

หรือจะใช้ตัวแปร ช่วยในการแสดงตัวอักษรก็ได้
หลังจากเขียนโปรแกรมนี้เสร็จให้ลอง Compile โดย กด Ctrl+F9
ตามด้วย Alt+F5 เพื่อดูผลลัพธ์



โครงสร้างขั้นพื้นฐาน 

เป็นไปตามที่ได้กล่าวไว้ค่ะ ได้แก่

    1. ส่วนประกาศตัวแปร ( var .. )

     2. ส่วนการทำงาน ( begin .. ไปถึง end.)แต่ความจริงยังมีส่วนประกอบ อีกหลายส่วน เช่น การประกาศค่าคงที่ การเรียกยูนิตมาใช้การ
เขียน โพรซีเจอร์ และฟังชั่นการประกาศตัวแปร local และ global


 ลักษณะการใช้ถ้อยคำและชื่อในภาษาปาสคาลมี2 ลักษณะ

   1. คำสงวน (Reserved word) คือชื่อต่าง ๆ ที่มีความหมายอย่างเดียวกันเสมอไม่ว่าจะเขียนขึ้นที่ใดของโปรแกรม เป็นคำหรือชื่อที่นิยาม
ไว้เป็นการเฉพาะ เช่น คำที่เขียนว่า BEGIN END REPEAT DIVเป็นต้น
  
  2. ชื่อที่ตั้งขึ้น (identifier) คือชื่อต่าง ๆ ที่ผู้เขียนโปรแกรมตั้งขึ้นเพื่อจะระบุถึงตัวแปรที่จะเก็บไว้ในหน่วยความจำเพื่อช่วยเตือนความทรงจำ
ของผู้เขียนโปรแกรมว่าชื่อที่ตั้งขึ้นมีจุดประสงค์ที่จะใช้ในโปรแกรมอย่างไร ดังนั้นจึงนิยามขึ้นมาเฉพาะในแต่ละโปรแกรม ความหมายของชื่อ
จึงเปลี่ยนไป ชื่อที่ตั้งขึ้น(identifier) จะต้องด้วยตัวอักษรแล้วตามด้วยศูนย์ หรือตัวอักษรหรือตัวเลขเท่านั้น และต้องเขียนทุกตัวติดกันหมด 
เช่น CURRENTSCORE,Y12,MY_BIRTH_DAY, NCC1997 เป็นต้น จำนวนตัวอักษรหรือความยาวของชื่อเขียนได้โดยไม่จำกัด แต่
คอมไพเลอร์บางตัวจะใช้อักขระเพียง 8 ตัวแรกเท่านั้น นิยมใช้ชื่อที่สื่อความหมายในสิ่งที่เราหมายถึงโดยใช้คำสั้น ๆ แทนข้อความที่สมบูรณ์

        กฎเกณฑ์ของซีนเท็กซ์ (syntax)  คือกฎที่นิยามโครงสร้างของภาษา ภาษาที่เราใช้ในการเขียนโปรแกรมมนุษย์สามารถ
เข้าใจความหมายได้แต่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเข้าใจเว้นแต่โปรแกรมปาสคาลนี้จะต้องถูกแปลหรือคอมไพล์ให้เป็นภาษาเครื่อง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น